มารู้จักบาร์โค้ดคืออะไร และ 4 ประโยชน์ของการทําบาร์โค้ด

เคยสงสัยกันไหมว่า แทบบาร์โค้ดที่เราเรียกกันนั้น เริ่มมาจากที่ไหนกัน และ มีความสำคัญอย่างไรต่ออุตสาหกรรมต่างๆ ระบบบาร์โค้ดคือการใช้สัญลักษณ์บ่งชี้ไปยังข้อมูลตัวเลขหรืออักษร และประยุกต์ต่อยอดมาเป็นตัวเลข โดยบาร์โค้ดมีอยู่ด้วยกัน 3 ประเภทก็คือ

  1. 1D การทำบาร์โค้ดแบบ 1D คือการนำข้อมูลโดยความหมายของความหนาของแทบสีดำในบาร์โค้ดนั้นบ่งบอกถึงชุดข้อมูลตัวเลขที่กำกับไว้ด้านล่างของบาร์โค้ด
  2. 2D การทำบาร์โค้ดแบบ 2D หรือ สองมิติ มีการนำตัวอักษรเข้ามาประยุกต์ใช้จะสามารถบ่งชี้ได้ทั้งตัวเลขและตัวอักษร การทำบาร์โค้ดรูปแบบนี้นิยมใช้คือ QR code โดยถูกพัฒนามาจากประเทศญี่ปุ่นนิยมใช้ในการเก็บข้อมูลเช่น URL website, Line เป็นต้น
  3. 3D รูปแบบอาจจะไม่ค่อยได้พบเจอกันมากส่วนใหญ่จะถูกพิมพ์หรือยิงไปสินค้าชิ้นนั้นๆเลย เพื่อให้ทดต่อสิ่งแวดล้อมหรือสภาพแวดล้อม บางครั้งใช้การยิงเลเซอร์ หรือการสลับบนสินค้านั้นๆ ส่วนใหญ่แล้วจะพบในอุตสาหกรรมประเภทยานยนต์ เครื่องมือแพทย์ แผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์

ซึ่งประโยชน์ของการทำบาร์โค้ดยังช่วยในเรื่องต่างๆ ดังนี้

  1. การแยกแยะสินค้า  อย่างอุตสาหกรรมใหญ่ๆมักจะมีชิ้นส่วนมากมาย ตั้งแต่ สี ขนาด จำนวนบรรจุ การทำบาร์โค้ดจะบ่งบอกได้ถึงความแตกต่างของสินค้าแต่ละชิ้นทำให้ในโรงงานหรือคนที่ต้องใช้วัตถุดิบสามารถแสกนและนำไปใช้ได้เลย
  2. ง่ายต่อการจัดการ การทำบาร์โค้ดนั้นตอบโจทย์ในการทำระบบจัดการที่มีความซับซ้อนให้ง่ายขึ้นได้ อย่างเช่นระบบไปรษณีย์ ถ้าใครเคยส่งพัสดุสินค้าไปยังปลายทาง เขาจะมีสติกเกอร์มาติดบริเวณพัสดุของเราโดยมี QR code เพื่อใช้ในการแสกนเข้าระบบได้ง่าย ไม่ต้องคีย์เลขเป็นสิบหลัก ทำให้ระบบการทำนั้นเร็วขึ้น
  3. สร้างภาพลักษณ์สินค้า ยังช่วยยกระดับของสินค้าได้เนื่องจากการทำบาร์โค้ดนั้นสอดคล้องกับมาตรฐานผลิตภัณฑ์ของอุตสาหกรรมอีกด้วย
  4. เพื่อประสิทธิภาพการบริหาร เมื่อข้อมูลจำนวนปริมาณถูกแปลงเป็นบาร์โค้ดที่ง่ายต่อการตรวจสอบ ผู้บริหารสามารถตัดสินใจวางแผน จากตัวเลขได้ง่ายขึ้น ไม่ต้องลงไปนับสินค้าเองแบบสมัยก่อน การทำบาร์โค้ดนั้นจึงตอบโจทย์ของการทำธุรกิจทุกรูปแบบ

ซึ่งการทำบาร์โค้ดนั้นสามารถนำไปใช้ได้เกือบทุกธุรกิจเลย ซึ่งการทำบาร์โค้ดก่อนให้เกิดวิวัฒนาการการทำหีบห่อ เพื่อคุณค่าให้กับสินค้า เพราะบางครั้งเราบรรจุสินค้าของลงไปเมื่อเวลาผ่านไปนานๆเราอาจจะไม่ได้ว่าสินค้านั้นคืออะไร แต่หากเรามีการทำบาร์โค้ด เมื่อเรานำเครื่องมือมาแสกนกล่องหรือพัสดุดังกล่าวก็จะทราบว่าสินค้านั้นคืออะไร แต่ทั้งนี้เราต้องมีข้อมูลเตรียมไว้ด้วย

สำหรับธุรกิจค้าปลีกนั้น อย่าง Supermarket หรือ ร้านค้าสะดวกซื้อ การทำบาร์โค้ดนั้นยิ่งเป็นสิ่งจำเป็นเพราะสินค้าบางครั้งหน้าตาเหมือนกัน ต่างกันแค่สีสันทำให้มีความสับสนของผู้ขายได้ นอกจากนี้การทำบาร์โค้ดยังทำให้ง่ายต่อการเช็คสต็อคสินค้าไม่จำเป็นต้องเข้าไปโกดังเพื่อมองหาสินค้าว่ามีไหม และช่วยให้พนักงานขายหน้าร้านนั้นสามารถบริการลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว ถูกต้องและแม่นยำ

แต่ในปัจจุบันเริ่มมีการทำบาร์โค้ดเพื่อใช้ในอุตสาหกรรมใกล้ตัวเรามากขึ้น อย่างเช่นการทำบาร์โค้ดสำหรับแสกนจ่ายเงินเพื่อให้ลูกค้านั้นชำระเงินได้ง่ายขึ้น สอดคล้องกับการมาของ Mobile banking ในปัจจุบันที่สามารถทำธุรกรรมหลายๆอย่างได้ผ่านช่องทางออนไลน์กันหมด

หรือการทำ Line@ ปัจจุบันก็สามารถที่เพียงแชร์ QR code และให้คนที่สนใจสินค้าของเรา add line เข้ามาคุยกับเราได้ง่ายขึ้น ลูกค้าไม่ต้องเข้าหลายฟังก์ชั่นก็สามารถแสกน QR code เพิ่มเราเป็นเพื่อนได้เลย

การทำแบบสอบถามก็สามารถใช้ได้ อย่าง google sheet ก็สามารถนำ link ดังกล่าวไปทำบาร์โค้ด ผ่านเว็บไซต์ได้อย่างฟรีๆ เลย ไม่มีค่าใช้จ่ายใด และง่ายมากๆ

ซึ่งใช้งานบาร์โค้ดนั้น สามารถใช้งานได้ผ่านโทรศัพท์มือถือ เพียงนำกล้องไปแสกน QR code ดังกล่าว รอสักครู่จะก็มีการแสดงผล ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับว่า QR code นั้นๆมีใส่ข้อมูลอะไรอยู่ เช่น เป็นเว็บไซต์ เป็นไฟล์หนังสือ หรือ เบอร์โทรศัพท์

ซึ่งระบบการจัดการร้านค้าออนไลน์จาก Fillgoods ก็มีการทำระบบ QR code เข้ามาใช้ในส่วนของการปริ้นปะหน้าสะดวก โดยผู้ที่ใช้ระบบนั้นเมื่อปริ้นและเรียกขนส่ง ทางขนส่งก็สามารถแสกนพัสดุเรา และสามารถแพ็คขึ้นรถได้เลยสะดวก รวดเร็วมาก โดยเรามีขนส่งชั้นนำให้เลือกถึง 5 ขนส่งด้วยกันเลยก็คือ SCG express , Ninja Van, Flash , Bee express , J&T express

นอกจากนี้ระบบ fillgoods ยังมี feature อีกมากมายเพิ่มสินค้าเข้าคลัง – Live ขายสินค้า – สร้างออเดอร์ – คอนเฟิร์มออเดอร์ – ปริ้นท์ใบปะหน้า – เรียกรถส่งสินค้า ได้สะดวกมีข้อมูลรองรับและเห็นภาพรวมได้ชัดเจนขึ้นกว่าเดิมภายในระบบเดียว