5 ระบบการจัดส่งสินค้าและระบบขนส่ง ที่แม่ค้าออนไลน์ต้องรู้ก่อนเปิดร้าน

หลายคนๆ คน เมื่อเห็นการเติบโตอย่างต่อเนื่องของธุรกิจออนไลน์ และการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมในการซื้อสินค้าของผู้บริโภคที่นิยมการซื้อสินค้าออนไลน์มากขึ้นเพราะสะดวกสบายในการจับจ่ายซื้อสินค้า ก็เริ่มสนใจอยากหารายได้เพิ่มด้วยการเปิดร้านขายของบนแพลตฟอร์มออนไลน์ ซึ่งส่วนใหญ่เรามักจะหันไปให้ความสำคัญกับการหาสินค้าที่เป็นที่นิยม และการหาลูกค้า แต่สิ่งที่ผู้ที่ต้องการเปิดร้านขายของออนไลน์ส่วนใหญ่มักลืมหรือไม่ได้วางแผนก็คือระบบขนส่ง ทั้งที่ระบบการขนส่งเป็นส่วนสำคัญที่ให้ช่วยเคลื่อนย้ายสินค้าของเราไปให้ถึงมือลูกค้าอย่างปลอดภัย นอกจากนี้ในปัจจุบันมีบริษัทขนส่งสินค้าเป็นจำนวนมากที่จะช่วยจัดส่งสินค้าของเราให้ถึงมือลูกค้า หากเราไม่พิจารณาว่าบริษัทหรือการขนส่งรูปแบบใดเหมาะสมและคุ้มค่ามากที่สุด อาจจะเป็นการเพิ่มต้นทุนให้สินค้าเราหรืออาจจะทำให้กำไรของเราลดลงได้

ในบทความนี้เราจึงอยากชวนผู้ที่สนใจที่จะเปิดร้านค้าออนไลน์ มาทำความเข้าใจเรื่องระบบการขนส่งและการเลือกระบบการขนส่งที่เหมาะสมและคุ้มค้ากับสินค้าของเราโดยพิจารณาจากข้อดีข้อเสียของการขนแต่ละประเภทกัน


ทำความเข้าใจระบบขนส่ง

ระบบขนส่ง (Transportation) คือ การขนส่งสิ่งต่างๆ ตั้งแต่สินค้าที่เป็นวัตถุ สัตว์เลี้ยงและอื่นๆ จากที่หนึ่งไปยังอีกที่หนึ่ง โดยใช้เส้นทางหรือวิธีการเคลื่อนย้ายที่เหมาะสมกับสินค้านั้นๆ เช่น ระยะทาง ขนาดและปริมาณของสินค้า รวมถึงต้นทุนในการขนส่งที่เรากำหนดไว้ ซึ่งปัจจุบันระบบการขนส่งมีให้เลือกหลายหลากรูปแบบตั้งแต่การขนส่งสินค้าระยะใกล้ๆ เช่นในจังหวัดเดียวกันหรือใกล้เคียง ระหว่างภูมิภาค และภายในประเทศสามารถใช้ระบบการขนส่งโดยรถไฟ รถยนต์หรือรถจักยานยนต์ได้ ส่วนในกรณีการขนส่งระหว่างประเทศมักนิยมขนส่งโดยเรือและเครื่องบินแทน

การพิจารณาความคุ้มค่าในการขนส่งเบื้องต้น

การพิจาณาถึงความคุ้มค่าและความเหมาะสมเบื้องต้นสำหรับพ่อค้าแม่ค้าสามารถพิจารณาได้หลายปัจจัยดังนี้ ปัจจัยแรกคือชนิดของสินค้า โดยให้เราพิจารณาว่าสินค้าของเราสามารถใช้ระยะเวลาในการขนส่งนานได้หรือไม่ ปัจจัยที่สองคือลูกค้า ลูกค้าของเราคาดหวังให้สินค้ามาถึงในระยะเวลาประมาณเท่าใด หรือให้เราลองคาดการณ์ว่าควรใช้ระยะเวลาเท่าใดในการขนส่งที่จะสร้างความประทับใจให้ลูกค้าได้ ปัจจัยที่สามเรื่องต้นทุนค่าขนส่งสินค้าถ้าหากเป็นการขนส่งแบบด่วนต้นทุนในการส่งก็จะเพิ่มขึ้น ในขณะที่การส่งแบบทั่วไปจะมีค่าขนส่งที่น้อยกว่านั้นเอง


อ่านเพิ่มเติม : ใส่ลายน้ำลงบนภาพสินค้า

ข้อดี-ข้อเสียของระบบการขนส่งสินค้าแต่ละประเภท

1. การขนส่งทางรถไฟ

การขนส่งทางรถไฟเป็นระบบการขนส่งที่ได้รับความนิยมมาตั้งแต่อดีต และปัจจุบันก็ยังคงมีหลายคนที่เลือกใช้การขนส่งในรู้แบบนี้เนื่องจากค่าจ่ายในการขนส่งสินค้าต่อหน่วยจะต่ำกว่าการขนส่งในรูปแบบอื่นๆ ทั้งนี้ข้อดีของการขนส่งสินค้าทางรถไฟ คือการที่เราสามารถส่งสินค้าได้ครั้งละจำนวนมากๆ ของที่นิยามจัดส่งในรูปแบบนี้ได้แก่ ข้าว น้ำตาล ผลไม้ เป็นต้น   โดยไม่ต้องกังวลเรื่องความปลอดภัยจากอุบัติเหตุระหว่างที่ขนส่ง อีกทั้งการขนส่งในรูปแบบนี้ยังใช้พลังงานในการขนส่งน้อยดังนั้นต้นทุนในการจัดส่งจึงน้อยตามไปด้วย

ทั้งนี้การขนส่งทางรางหรือการใช้รถไฟนั้น มีข้อจำกัดในแง่เรื่องการส่ง-รับสินค้า เนื่องจากการขนส่งด้วยรถไฟผู้ส่งและผู้รับสินค้าจะไปที่สถานีรถไฟเท่านั้น หรือไม่สามารถส่งสินค้าถึงบ้านของลูกค้าได้นั้นเอง

2. การขนส่งรถยนต์หรือรถบรรทุก 

การขนส่งรถยนต์หรือรถบรรทุกเป็นที่นิยมอันดับต้นๆ เนื่องด้วยการเป็นขนส่งที่ใช้มีค่าใช้จ่ายในการขนส่งไม่มากนัก แต่ทำให้การขนส่งสินค้าเป็นไปโดยสะดวกและรวดเร็ว อีกทั้งยังสามารถให้บริการถึงบ้านได้ของลูกค้าได้เลย แต่ข้อเสียคือการใช้น้ำมันสำหรับขับรถส่งของซึ่งราคาน้ำมันเป็นไปตามกลไกราคาน้ำมัน ซึ่งถ้าหากเป็นช่วงที่น้ำมันมีราคาแพงอาจส่งผลกระทบต่อต้นทุนในการขนส่งสินค้าของเราได้ รวมไปถึงการขนส่งโดยรถยนต์หรือรถบรรทุกสามารถส่งได้ในระยะทางใกล้ๆ ถึงปานกลางเท่านั้นด้วย

3. การขนส่งทางน้ำ

การขนส่งทางน้ำหรือการใช้เรือเป็นพาหนะในการขนส่งนั้น ส่วนมากมักจะนิยมในธุรกิจที่จำเป็นต้องในขนส่งสินค้าในปริมาณมากๆ สามารถอยู่ได้นาน โดยสามารถขนส่งสินค้าได้ทั้งระยะใกล้ๆ ไปจนถึงระยะไกลข้ามทวีปได้ ข้อจำกัดในการขนส่งในรูปแบบนี้คือการใช้ระยะเวลาค่อนข้างมาก และการขนส่งโดยเรือมีความเสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตุ กล่าวคือ ถ้าเรือมีน้ำหนักมากเกินไปหรือเรือไม่แข็งแรงอาจทำให้ทำให้ตัวเรือจมได้

4. การขนส่งทางอากาศ

การใช้พาหนะเครื่องบินในการขนส่งสินค้าเป็นที่นิยมอย่างมากสำหรับการขนส่งสินค้าข้ามประเทศที่ใช้เวลาในการขนส่งที่จำกัด ยกตัวอย่างเช่น สินค้าประเภทวัตถุดิบอาหาร สินค้าแฟชั่นที่จำเป็นต้องส่งในเท่าทันกับกระแสความนิยมของผู้คนทั่วโลก ซึ่งข้อดีของการขนส่งโดยเครื่องบินจะช่วยป้องกันความเสียหายของสินค้าในระหว่างการขนส่งมากที่สุด และมีความรวดเร็วในการขนส่ง สามารถขนส่งสินค้าได้หลากหลายประเภท ทั้งนี้ข้อเสียของการขนส่งทางอากาศก็คือค่าใช้จ่ายในขนส่งค่อนข้างสูง และการขนส่งต้องขึ้นอยู่กับสภาพภูมิอากาศในช่วงนั้นๆ ด้วย

5. การขนส่งด้วยบริการ Delivery

สุดท้ายการขนส่งโดยใช้บริการจากบริษัทขนส่งแบบด่วน ซึ่งในปัจจุบันมีให้เลือกใช้บริการเป็นจำนวนมาก อาทิ Grap Express, Kerry Express, Lalamove และอื่นๆ อีกเป็นจำนวนมาก การขนส่งในรูปแบบนี้กำลังเป็นที่นิยมทั้งจากพ่อค้าแม่ค้าและลูกค้าด้วยเนื่องจากเป็นที่บริการรับสินค้าจากพ่อค้าแม่ค้าไปส่งถึงหน้าบ้านของลูกค้าภายระยะเวลาอันสั้น ข้อดีของการใช้การขนส่งแบบ Delivery คือตอบโจทย์พฤติกรรมของคนในสังคมที่ไม่ต้องการรอสินค้านานๆ และช่วยให้สินค้าของเราส่งถึงมือลูกค้าอย่างปลอดภัย มีบริการกล่องควบคุมอุณหภูมิสำหรับสินค้าที่เป็นอาหาร ส่วนข้อจำกัดของการจัดส่งในรูปแบบนี้คือพื้นที่ในการให้บริการที่ยังกระจุกอยู่ตามหัวเมืองใหญ่ๆ เท่านั้น