ขายของบน Facebook อย่างไรให้ปัง

ปัจจุบันแนวโน้มการซื้อสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์ โดยเฉพาะ Facebook สูงอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ ด้วยปัจจัยหลายประการ อาทิ เพื่อหลีกเลี่ยงสภาพอาการที่ร้อน ปัญหาฝุ่นละออง ปัญหารถติด ตลอดจนไวรัสที่เป็นอันตราย เป็นต้น ทำให้การออกไปเลือกซื้อสินค้าที่ห้องสรรพสินค้าน้อยลงอย่างเห็นได้ชัด

ข้อดีของการขายของบน Facebook คือลงทุนน้อยไม่ต้องเช่าพื้นที่ สามารถโปรโมทสินค้าของเราได้อย่างเต็มที่ ลูกค้าสามารถติดต่อพูดคุยกับทางร้านได้โดยตรง ช่วยให้เราสามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่เราต้องการได้ทั่วทั้งประเทศ เนื่องจากขายที่ตลาดก็อาจจะเข้าถึงลูกค้าที่อาศัยอยู่ในบริเวณร้านค้าเท่านั้น แม้จะมีข้อดีหลายประการก็ตาม แต่การจะขายของใน Facebook  ให้ประสบความสำเร็จและดึงดูดความสนใจจากคนในปัจจุบันได้ นำไปปรับใช้ ซึ่งมีอะไรมานำเสนอบ้างลองไปดูกันเลย

อ่านเพิ่มเติม : 6 ขั้นตอนการขายของออนไลน์บน Facebook , ขายของใน Facebook ดีไหม

1. จุดเริ่มต้นการขายบน Facebook คือการสร้างเพจ

การเปิดเพจ Facebook ถือเป็นหัวใจสำคัญอันดับต้นๆ ของการ ข้อดีของการมีเพจขายของคือ ลูกค้าจะมองว่าเป็นมืออาชีพมากกว่า เพจสามารถยิงโฆษณาได้ ในขณะที่การใช้ Facebook ส่วนตัวทำไม่ได้ ขั้นตอนแรก คือการสร้างเพจขายของบน Facebook ใส่รายละเอียด อาทิ ตั้งชื่อเพจ ซึ่งควรตั้งให้จำง่ายและมีคีย์เวิร์ดของสินค้าที่เราขาย เลือกหมวดหมู่ ขั้นตอนต่อไป ให้เราตั้งรูปโปรไฟล์และภาพปก

ขั้นตอนที่สามให้เราตั้งค่าข้อมูลเพจ ข้อมูลร้านค้า ขอแนะนำว่าควรกรอกรายละเอียดต่างๆ ของร้านเราให้ครบถ้วน ชัดเจน และกด “เพิ่มคำอธิบายสั้นๆ” เพื่อเข้าสู่กระบวนการตั้งค่าข้อมูลเพจร้านขายของของเรา ซึ่งจะให้เราใส่ข้อมูลทั่วไปเกี่ยวกับเพจ วิธีการติดต่อกับร้าน ตำแหน่งที่ตั้งร้าน วันและเวลาเปิด-ปิดร้าน การติดต่อ ซึ่งการให้ข้อมูลรายละเอียดยิ่งมากเท่าไหร่ ยิ่งเพิ่มความน่าเชื่อถือกับลูกค้าได้มาเท่านั้น

2. ทำ SEO Facebook

ในยุคนี้น้อยคนนักที่จะใช้โทรศัพท์ติดต่อสอบถามจากผู้เชี่ยวชาญในเรื่องที่เราไม่รู้ เพราะคนส่วนใหญ่เมื่อต้องการรู้อะไรก็หันมาพึ่งพาการ search ค้นให้ข้อมูลในแพตฟอร์มออนไลน์ต่างๆ มากกว่ารอคนอื่นว่างมาตอบปัญหาที่เราสงสัย ดังนั้นการทำให้เพจเราอยู่ในอับดับต้นๆ โดยการทำ SEO หรือ Search Engine Optimization เพื่อทำให้ลูกค้า search ร้านเราเจอใน Search engine ทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็น Google, Bing, Yahoo รวมถึงกล่อง search ของ Facebook ก็จะช่วยเพิ่มฐานลูกค้าให้เพจเราได้มากขึ้น เนื่องจากเมื่อใครก็ตามกำลังตามหาสินค้าและบริการที่เราขาย search ก็พบเพจร้านค้าของเราเป็นอันดับต้นๆ นั้นเอง

3. เขียนโพสต์ขายของให้น่าซื้อ

การโพสต์ข้อความลงบน Facebook นั้นข้อพึ่งทราบคือ ข้อความทั้งหมดจะไม่ได้ปรากฏให้ผู้อ่านได้อ่าน แต่จะแสดงเพียง 3-4 บรรทัดเท่านั้นจากนั้นผู้อ่านจะต้องคลิก continue reading หรือ คลิกอ่านต่อเอง ดังนั้น เจ้าของเพจที่อยากขายของ ซึ่งข้อความที่โพสต์ไม่ควรจะขายของแต่เพียงประการเดียวแต่ต้องจำเป็นต้องเลือกให้ข้อมูลที่ดีเป็นประโยชน์และตอบสนองความต้องการของผู้อ่านได้ด้วย

อีกเทคนิคหนึ่งที่จะทำให้โพสต์ของเราเข้าถึงลูกค้าได้ คือการ Pin to Top หรือการปักหมุดโพสต์ไว้ เดือนนี้มีโปรโมชั่นอะไร หรือแจ้งข้อมูลดีๆ ต่อลูกค้าในเพจเรานี้จะช่วยให้คนทั่วไปที่เจ้ามาในเพจเราได้อ่าน และทำให้ขายสินค้าของเราได้ดีขึ้น

4. ตอบเร็ว เท่ากับใส่ใจลูกค้า

หนึ่งปัจจัยที่ทำให้ลูกค้าหันมาซื้อของออนไลน์ คือการอดทนต่อการรอไม่ได้ ดังนั้นการที่ลูกค้าทักมาเพื่อขอข้อมูลเพิ่มเติม หรือซื้อสินค้าก็ตามแล้วเราไม่ตอบ ลูกค้าอาจหันไปหาซื้อสินค้าที่เหมือนกันที่ร้านค้าออนไลน์อื่นๆ ได้ ซึ่งหากเราไม่สามารถที่จะตอบลูกค้าได้ทันที สามารถใช้บริการตอบอัตโนมัติของ Facebook ได้ ซึ่งระบบถูกนี้เรียกว่า Chat bot เป็นระบบที่ง่ายและไม่ฟรี สามารถเป็นตัวช่วยที่ดีสำหรับพ่อค้าแม่ค้าที่มีหลายเรื่องที่ต้องจัดการทำให้ไม่มีเวลาสแตนด์บายตอบคำถามลูกค้าได้ นอกจากนี้ Facebook ยังสามารถตั้ง Greeting Message หรือข้อความทักทายเพื่อเป็นการทักลูกค้าใหม่ ทำให้เพจของเราใส่ใจลูกค้ามองขึ้นนั้นเอง

5. สม่ำเสมอเป็นปัจจัยของความสำเร็จด้านการขาย

เพื่อให้เรารักษาสัมพันธ์กับลูกเพจได้ การอัพเดตโพสต์บนหน้าเพจถือเป็นสิ่งที่ต้องทำเพราะจะช่วยการสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ลูกค้าใหม่ที่เพิ่งเข้ามาเจอเพจคุณ หากเราไม่มีเวลาโพสต์ทุกวัน สามารถตั้งเวลาโพสต์ไว้ล่วงหน้าจากกนั้นเราก็สามารถไปทำธุระอย่างอื่นได้อย่างสบายใจได้เลย ทั้งนี้ การอัพเดตโพสต์อย่างสม่ำเสมอในหน้าเพจเป็นประจำ ยังเป็นผลดีในแง่การทำ SEO เพราะจะช่วยทำให้ search engine มองว่าเราเป็นเพจที่มีคุณภาพ ปลอดภัยและน่าเชื่อถือนั้นเอง

6. Facebook Live กระตุ้นยอดขายได้จริง

Face Live หรือการไลฟ์สดขายสินค้ากำลังเป็นที่นิยมอย่างยิ่งในปัจจุบัน เนื่องจากทำให้ผู้ซื้อมีความมั่นใจในตัวผู้ขายมากกว่าการโพสขายสินค้าแบบใช้รูปถ่าย เพราะสามารถพูดคุยโต้ตอบ สอบถามกับเจ้าของเพจได้ในทันที และสามารถมองเห็นสินค้าจริงจากการไลฟ์ขายสินค้าของร้านค้าได้ ข้อดีของการไลฟ์สดขายสินค้าอีกประการหนึ่งก็คือ เป็นการสร้างช่องทางในการกระจายสินค้าได้ดีกว่า คิด Concept ที่เหมาะกับสินค้าและบริการ เพื่อเพิ่มความน่าสนใจ ความแปลก และแตกต่าง

ทั้งนี้ผู้ที่จะไลฟ์สดขายสินค้าควรมีสคริปท์ที่ดี สร้างบรรยาศที่สนุกและไม่ใช้เวลามากเกินไปจนทำให้ผู้ดูเบื่อหรือรำคาญ อีกทั้งยังต้องจัดสรรเวลาในการ Face Live ในแต่ละช่วงได้เหมาะสม มีแผนสำรองในกรณีจำนวนผู้เข้าชมไม่ตรงตามเป้า เช่น การแจกของสมนาคุณให้ผู้ที่ร่วมแชร์ และเชิญเพื่อเข้าร่วมชมไลฟ์

ตลอดจนควรโพสต์ข้อความแจ้งให้ลูกค้าของเราทราบล่วงหน้า หรือการแจ้งโปรโมชั่นพิเศษสำหรับผู้ที่สั่งซื้อในช่วงเวลาไลฟ์ หากเราไม่มีการแจ้งวันและเวลาล่วงหน้า ผู้ที่เข้ามาชมจะเป็นคนที่ใช้งานซึ่งอาจจะไม่ได้สนใจในสินค้าและบริการที่เราขาย ดังนั้น ควรแจ้งวันและเวลาที่เราจะไลฟ์ล่วงหน้า  มีการโพสข้อความเตือนความจำว่าวันนี้ เวลานี้ เราจะ Face Live  เป็นระยะ ๆ